Categories
หนังใหม่ หนั่งฝรั่ง

Sylvie’s Love I ซิลวี่เลิฟ (2020)

Sylvie’s Love I ซิลวี่เลิฟ (2020)

หนังรักน้ำเน่ายุค 60 ในเมืองนิวยอร์ก ส่วนใหญ่แล้วจะมีพระนางเป็นคนผิวขาว แต่ในเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะสีผิว เพศ เชื้อชาติอะไร ทุกคนก็เท่าเทียมกัน แน่นอนว่ามีหนังที่พูดถึงประเด็นเรื่องการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมออกมาให้ดูแทบทุกปี อย่างเช่น Hidden figures ในปี 2016 ที่พูดถึงผู้หญิงผิวสีที่ทำงานในองค์กรนาซ่าในยุคที่ผู้หญิงและคนผิวสีไม่ได้เป็นที่ยอมรับ สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือ หนังที่มีคนผิวสีแสดงนำและมีแบ็กกราวด์อยู่ในช่วงหลังปี 2000 ล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่สะท้อนปัญหาการเหยียดคนผิวสีในอเมริกา แต่สำหรับการ ดูหนังใหม่ออนไลน์ ที่ผมนำมาเล่าวันนี้ เป็นหนังคนผิวสีที่อยู่ในช่วงปี 50’s – 60’s ที่เป็นหนังรักและไม่ได้มีเรื่องการเหยียดสีผิวเป็นประเด็นหลักในเรื่อง หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า “Sylvie’s Love”

Sylvie’s Love ภาพยนตร์แนว โรแมนติก Romance เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับของ ยูจีน แอช ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลงานหนังยาวเรื่องที่ 2 ที่ทำให้เขาเป็นรู้จักมากขึ้น หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย เทสซา ธอมป์สัน รับบทเป็น ซิลวี่ และ นามดิ อาโซมูกา รับบทเป็น รอเบิร์ต ฮัลโลเวย์

ซิลวี่เลิฟ

ค่ำคืนหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก ปี 1962 ซิลลี่ สาวผิวสีสวมชุดราตรี เธอกำลังยืนรอเพื่อนในการชมการดนตรีแจ๊สของ แนนซี่ วิลสัน อย่างโดดเดี่ยว เมื่อชายหนุ่มผิวสีเดินผ่าน เธอทักทายเขาด้วยคำถามว่า เขาคือรอเบิร์ต ฮัลโลเวย์ใช่หรือไม่ หนังพาย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน รอเบิร์ตเป็นนักดนตรีแจ๊สที่บาร์ Blue Morocco  ซิลวี่ทำงานที่ร้านขายแผ่นเสียง ทั้งคู่พบกันที่นั่นครั้งแรก เมื่อรอเบิร์ตกำลังหางานที่จะทำในช่วงเช้าเพราะเงินค่าจ้างจากการเป็นดนตรีไม่พอยาไส้ เขาเห็นป้ายสมัครงานที่ร้านแผ่นเสียง จึงเดินเข้าไปในร้าน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เขาเลือกจะก้าวเข้าร้าน เขาตกตะลึงกับความสวยของหญิงสาวคนหนึ่งที่ทำงานอยู่เคาเตอร์ ซึ่งคือซิลวี่ ป้ายประกาศหางานเป็นการเข้าใจผิดนิดหน่อย ซึ่งเธอกะจะเขียนแกล้งคู่หมั้นของเธอที่ตอนนี้อยู่ในสนามรบ แต่สุดท้ายพ่อของซิลวี่ก็รับเขาเข้าทำงานและเริ่มทำทันทีในวันถัดมา ทั้งซิลวี่และรอเบิร์ตต่างแลกเปลี่ยนความรู้ทางดนตรีให้แก่กันจนสนิทสนมกันมากขึ้น รอเบิร์ตจึงชวนเธอไปดูการแสดงของเขาที่คลับในคืนนั้น ระหว่างที่รอเบิร์ตเป่าแซ็กโซโฟนบนเวที ตลอดการแสดงเขาได้ดึงดูดซิลวี่ราวกับต้องมนต์สะกด เขาอาสาเดินไปส่งซิลวี่ที่บ้านและทั้งคู่ก็ลงเอยด้วยการจูบลาในคืนนั้น แน่นอนว่าแม่ของซิลวี่ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง เพราะเธอมีคู่หมั้นแล้ว เธอจึงบอกกับรอเบิร์ตว่าในคืนนั้นเป็นเพียงความผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตักเตือนของเม่ก็มิอาจกีดกั้นความรู้สึกของหนุ่มสาวที่มีต่อกัน ทั้งคู่คบกันอย่างลับๆ มีเพื่อนสนิทของพวกเขาเท่านั้นที่รู้ แต่สุดท้ายแม่ของซิลวี่ก็รู้ถึงความสัมพันธ์นี้จึงได้ เธอจึงใช้วิธีเผด็จการกับลูกสาวไม่ให้ติดต่อกับรอเบิร์ตและไล่เขาออกจากการเป็นพนักงานร้านขายแผ่นเสียง คนหนึ่งรอเบิร์ตจึงตัดสินใจมาเป่าแซ็กโซโฟนหน้าบ้านของเธอเพื่อบอกเรื่องสำคัญ เขากำลังจะทัวร์การแสดงดนตรีที่กรุงปารีสอีก 2 สัปดาห์จึงชวนเธอไปด้วย เธอรับปากว่าจะเก็บเรื่องนี้ไปไตร่ตรอง ระหว่างนั้นซิลวี่รู้สึกไม่สบายตัวและประจำเดือนไม่มานานแล้ว เธอจึงมั่นใจว่าเธอท้อง และพ่อของเด็กคือรอเบิร์ต พอถึงวันที่รอเบิร์ตต้องขึ้นเครื่องบินไปปารีส ซิลวี่มาหาเขาเพื่อส่งทางเท่านั้นและตัดสินใจที่จะไม่บอกเรื่องเด็กในท้องเพราะไม่อยากขัดขวางอนาคตของเขา 

5 ปีต่อมา ซิลวี่เพิ่งได้งานใหม่เป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์รายการอาหาร หน้าที่การงานของเธอกำลังไปได้ดีแต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เธอแต่งงานกับหนุ่มที่อนุญาตให้เธอทำงานได้ตราบได้ไม่กระทบกับการทำงานบ้านและปรนเปรอเขา อีกทั้งเขามีนิสัยที่หลงตัวเองและไม่เคยชื่นชมคนอื่นเลยนอกจากตัวเขาเอง รอเบิร์ตบังเอิญเข้ามาในช่วงที่ความรักของซิลวี่กำลังมีปัญหา ทั้งคู่พบกันที่หน้าโรงละครเหมือนกับฉากเปิดเรื่อง ปัจจุบันรอเบิร์ตมานิวยอร์กเพื่ออัดแผนเสียง เขาทำงานที่สมาคมนักดนตรีแห่งนิวยอร์ก อาชีพนักดนตรีของเขาก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดถ้าเทียบกับ 5 ก่อน มีหลายอย่างในช่วง 5 ปีที่ทั้งคู่เปลี่ยนไป ยกเว้นเคมีที่เข้ากันของพวกเขา การพบกันครั้งนี้จะเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 

Sylvie’s Love

ผมรู้ชอบในช่วงแรกของ หนังใหม่ออนไลน์ มากกว่าช่วงหลัง ในช่วงแรกหนังมีความสดใสและทำให้หัวใจพองโต เขินจนจิกหมอน แต่พอมาช่วงหลังหนังพยายามใส่ดราม่า ใส่ปมจนอาจจะเยอะไป แต่ก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ว่าต้องการให้เห็นชีวิตที่โตขึ้นของตัวละครทั้ง 2 คน พอใส่ปัญหาหรือปมเข้ามาเยอะจึงทำให้เส้นหลักถูกกลบไปบ้าง แต่หนังก็ยังดึงให้กลับมาอยู่ในประเด็นหลักได้ในตอนท้าย สิ่งที่ชอบอีกอย่างของหนังคือถึงแม้เรื่องนี้จะเล่าถึงความรักของซิลวีและรอเบิร์ต แต่หนังก็ได้สอดแทรกการต่อสู้ของคนผิวสีเข้าไปในหนังโดยไม่ทำให้ประเด็นหลักโดนกลบ เช่น โปรดิวเซอร์รายการทีวีเป็นผู้หญิงผิวสีที่ทำให้รายการให้คนผิวขาว หรือวงดนตรีนักร้องผิวขาวที่มีนักดนตรีเป็นคนผิวสี เป็นต้น