Yara | หนูน้อยยารา (2021)
จากคดีดังสู่ม้วนฟิล์ม วันนี้ขอเสนอมเรื่อง ‘Yara หนูน้อยยารา’ เธอเป็นเด็กสาวอิตาลีวัย 13 ปี ที่ใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป บ้านกับโรงเรียนห่างกันเพียง 700 เมตร แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างที่เดินกลับบ้าน เธอกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย สามารถรับชมเรื่องราวของเธอได้ผ่าน เว็บหนังออนไลน์ และจงเตรียมใจให้พร้อมเพราะเป็นอีกคดีที่หดหู่มากๆ
Yara ภาพยนตร์แนว สารคดี Documentary กำกับโดย Marco Tullio Giordana หนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริงเมื่อปี 2011 เมื่อเด็กสาววัย 13 ปี ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 3 เดือนผ่านไปพบว่าเธอกลายเป็นศพแล้ว
26 กุมภาพันธ์ ปี 2011 ชายคนหนึ่งกำลังเล่นโดรนอยู่ในทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง โดรนของเขาตกไปโดนอะไรบางอย่างที่สยดสยอง สิ่งนั้นคือร่างของหญิงสาวในสภาพขึ้นอืดและขาทั้งสองข้างถูกหั่นออก เมื่อเจ้าหน้าที่ชันสูตร ก็พบว่าเจ้าของร่างดังกล่าวคือ ยาร่า เด็กสาววัย 13 ปี ที่หายตัวไปเมื่อ 3 เดือนก่อน เลติเซีย อัยการที่ทำงานสืบสวนและค้นหาเธอมานับตั้งแต่เธอหายตัวไป ทำหน้าที่เป็นคนโทรบอก เมาร่าและฟูลวิโอ พ่อแม่ของเด็กสาวว่ายาร่าเสียชีวิตแล้ว ย้อนไปเมื่อ 3 เดือนก่อน ยาร่าเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนและเป็นนักกีฬายิมนาสติก เธอใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งเธอจะเป็นนักกีฬาทีมชาติให้ได้ ยาร่ามักจะซ้อมจนถึงพลบค่ำและเดินกลับบ้านคนเดียวเสมอ เพราะบ้านของเธออยู่ห่างจากโรงเรียนเพียง 700 เมตรเท่านั้น วันหนึ่งขณะที่เธอเดินกลับบ้านเป็นปกติ มีรถกระบะคันหนึ่งขับตามเธอมา หนังตัดไปที่บ้านของยาร่า ซึ่งเมาร่า แม่ของเธอกำลังโทรหาเธอแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เธอโทรไปหาเลติเซีย อัยการและเป็นครูสอนยิมนาสติกเธอด้วย แต่ไม่มีใครพบเธอหลังจาก 6 โมงเย็น เมื่อเวลาเริ่มดึกขึ้น สถานการณ์ก็ตึงเครียดมากขึ้น ฟลูวิโอตัดสินใจไปแจ้งตำรวจ เช้าวันต่อมา คดีหายตัวไปของยาร่ากลายเป็ณข่าวดังไปทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างขมักเขม่น และใช้สุนัขดมกลิ่นหาตัวเธอทั่วทั้งเมืองเบรมยาเต เจ้าหน้าที่บางส่วนมาที่บ้านของยาร่าเพื่อเก็บหลักฐานสำคัญไป หนึ่งในนั้นคือไดอารี่ของเธอ 2 วันต่อมายังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่เข้าหน้าที่ได้เข้าไปไซต์ก่อสร้างบริเวณใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบหลักฐานอะไรที่น่าสงสัย
เลติเซียตัดสินใจอ่านไดอารี่ของยาร่าเผื่อว่าจะพบตัวผู้ต้องสงสัยได้ วันหนึ่งยาร่าเขียนบันทึกไปว่า เขามายืนข้างฉันด้วย ซึ่งหมายถึงหนุ่มฮอตที่เธอแอบชอบก็แค่นั้น ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดักฟังคนงานคนหนึ่งในเขตก่อสร้างมาเปลโล ชาวโมร็อกโกชื้อ โมฮาเหม็ด ฟิกรี ซึ่งเขาพูดคนเดียวในห้องว่า “ขออัลเลาะห์อภัยให้ลูก ลูกไม่ได้ฆ่าเธอ” พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย เมื่อเลติเซียรู้เรื่องเข้า ก็สั่งให้จับเขาทันที เมื่อทำการสืบสวนพบว่า ฟิกรีเพิ่งเลิกกับแฟนสาว และล่ามแปลผิด เลติเซีย จึงประกาศหาล่ามมาช่วยแปล ซึ่งทุกคนแปลตรงกันว่า ขอให้เธอรับสายฉันดี นั่นหมายความว่า ล่ามคนก่อนแปลผิดแน่นอน ชาวเมืองเริ่มก่อม็อบประณามการทำงานที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่และทำให้ฟิกรีได้รับความเสื่อมเสีย 1 เดือนผ่านไป มีคนพบศพหญิงคนหนึ่งที่ถูกฆ่าใกล้ๆ กับบาร์นอกเมือง เจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าคนที่ลงมืออาจจะเป็นคนเดียวกัน ซึ่งแม้จะผ่านมา 1 เดือนแล้วแต่ยังไม่พบเบาะแสอะไรเป็นชิ้นเป็นอัย มีเพียงข้อสันนิฐานที่บอกว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนที่ยาร่ารู้จัก เพราะที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการทำร้าย หรือมีเสียงกรีดร้อง
สำหรับใครที่อยากจะรู้เรื่องราว หนังออนไลน์ในเว็บ เพิ่มเติม ผมแนะนำให้ลองไปดูให้จบ ส่วนใครอยากรู้แบบกระจับ ให้ลองไปฟังพ็อตแคสต์ Untitled Case ก็ได้ เพราะมีพูดถึงเรื่องนี้อย่างเจาะลึกอยู่ ทีนี้มาพูดในส่วนของหนังเรื่องนี้กันบ้าง จริงๆ มีจุดใหญ่ๆ ที่ผมไม่โอเค คือการนำเสนอการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้ดูตั้งใจทำงานแต่แค่มันเป็นคดีที่ยาก พวกเขาเลยทำอะไรไม่ได้มาก ถ้าหากใครที่ดูหนังสอบสวนบ่อยๆ จะพบว่า เจ้าหน้าที่คดีนี้ ทำงานได้ชุ่ยมากๆ และถ้าอยากรู้ว่าชุ่ยยังไงก็ลองไปฟังพ็อตแคสต์ดูครับ ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้